มะเร็งที่พบมากในผู้หญิง คือ มะเร็งปากมดลูก ซึ่งจะพบได้ก็ต่อเมื่อต้องตรวจภายในเท่านั้น นอกจากนี้ยังได้รับผลพวงอื่น ๆ เกี่ยวกับระบบอวัยวะภายใน เช่น มดลูก รังไข่ ฯลฯ โดยปัญหาที่พบมากคือ ปวดท้องประจำเดือนเรื้อรัง มีลูกยาก หรือเป็นอันตรายถึงชีวิตถ้าเป็นมะเร็ง

ตรวจภายใน คืออะไร ?

การตรวจภายใน (Pelvic exam) คือการตรวจหาความผิดปกติอวัยวะในอุ้งเชิงกรานของสตรี ทั้งภายนอกและภายใน รวมถึงอวัยวะข้างเคียง โดยเรียงจากข้างนอกเข้าไปข้างใน ได้แก่ ปากช่องคลอด ช่องคลอด ปากมดลูก มดลูก ปีกมดลูก และรังไข่ การตรวจภายใน เป็นการตรวจเพื่อประเมินสุขภาพของระบบสืบพันธุ์เพศหญิง ช่วยคัดกรองมะเร็งปากมดลูก และค้นหาสาเหตุของความผิดปกติของโรคทางนรีเวช

อาการแบบไหนที่เราควรตรวจภายใน

  • เลือดออกผิดปกติ เช่น ออกกะปริบกะปรอย, ปริมาณมาก มีลิ่มเลือดปน, ระดูมานานกว่า 7 วัน ระยะรอบประจำเดือน มาห่างน้อยกว่า 21 วัน หรือมากกว่า 35 วัน, เลือดออก
  • ตกขาว มีปริมาณมากขึ้น สีเปลี่ยนไป เช่น สีเขียว, สีเหลือง มีกลิ่นแรงขึ้น ลักษณะเปลี่ยน ไปเป็นลักษณะมูกสีขาวข้นคล้ายแป้ง
  • ปวดท้องน้อย ทั้งที่สัมพันธ์กับช่วงมีระดูหรือไม่มีระดู, ปวดหน่วงท้องน้อย
  • พบผื่น, ติ่งเนื้อที่อวัยวะเพศภายนอก, แสบขัดในช่องคลอด
  • คลำพบก้อนที่ท้องน้อย

เตรียมตัวอย่างไร ก่อนตรวจภายใน

  1. หลีกเลี่ยงการตรวจในช่วงที่มีประจำเดือน และควรรอให้ประจำเดือนหมดสนิท 2-3 วัน หรือก่อนที่จะมีประจำเดือนในรอบถัดไปประมาณ 1 สัปดาห์จึงจะมาตรวจ เพราะการตรวจในช่วงที่มีประจำเดือนจะทำได้ยาก และอาจทำให้ผลคลาดเคลื่อนได้ แต่หากมีเลือดออกทางช่องคลอดทุกวัน สามารถพบแพทย์เพื่อตรวจภายได้เลย ไม่ต้องรอเลือดหยุด
  2. งดมีเพศสัมพันธ์ รวมถึงการใช้ยาเหน็บในช่องคลอด หรือสวนล้างช่องคลอด ก่อนเข้ารับการตรวจประมาณ 24-48 ชั่วโมง
  3. ไม่ปิดปังข้อมูลกับแพทย์ เช่น เป็นโสดแต่อาจมีเพศสัมพันธ์ วิธีการที่ใช้ในการคุมกำเนิด การทำแท้ง หรืออาการผิดปกติที่อาจเกี่ยวข้องกับระบบสืบพันธุ์ รวมถึงประวัติการแพ้ยา
  4. ควรปัสสาวะออกให้หมด แพทย์จะได้คลำขนาดมดลูกและปีกมดลูกได้

ขั้นตอนการตรวจภายใน เป็นอย่างไร ?

การตรวจภายในจะทำหลังจากที่แพทย์ซักประวัติสุขภาพเรียบร้อยแล้ว เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการวินิจฉัย โดยมีขั้นตอนดังนี้

  • แพทย์จะตรวจดูอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกและช่องคลอดด้วยตาเปล่าก่อน โดยจะตรวจหาการระคายเคือง รอยแดง แผล บวม หรือความผิดปกติอื่นๆ
  • แพทย์จะใช้เครื่องมือถ่างขยายช่องคลอด หรือที่เรียกว่า “คีมปากเป็ด” (Vaginal Speculum) ถ่างขยายปากช่องคลอด และใช้ไฟฉายส่องดูปากมดลูกและผนังช่องคลอด
  • หลังจากนั้นจะนำเครื่องมือออก แล้วใช้นิ้วมือสอดเข้าไปตรวจช่องคลอด คลำปากมดลูก รอบๆ คอปากมดลูก ตัวมดลูก ปีกมดลูก รังไข่ และใช้มืออีกข้างคลำหน้าท้องดูด้วย
  • หากตรวจหามะเร็งปากมดลูก หรือที่เรียกว่า “ตรวจแปปสเมียร์” (Pap Smear) ร่วมด้วย แพทย์จะใช้เครื่องมือเก็บเซลล์บริเวณปากมดลูกไปส่งตรวจในห้องปฏิบัติการณ์
  • หากตรวจอัลตราซาวด์ช่องคลอดร่วมด้วย แพทย์จะสอดอุปกรณ์เข้าไปทางช่องคลอด ซึ่งจะแสดงผลผ่านทางจอมอนิเตอร์ ช่วยให้แพทย์มองเห็นมดลูกและรังไข่ได้ชัดเจนขึ้นกว่าเดิม

ตรวจภายในราคาเท่าไร ?​

ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก PV & Thin Prep (G108)

รอผล 5 วัน / ราคา 1,900 บาท

  • การตรวจภายใน ( PV)
  • การตรวจมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธี (Liquid Prep base Cytology)

ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก Co-Test Thin Prep & HPV screening (GH233) 

รอผล 7 วัน / ราคา 3,900 บาท

  • การตรวจภายใน ( PV)
  • การตรวจมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธี (Liquid Prep  base Cytology)
  • การตรวจหาเชื้อ  Human Papilloma Virus: HPV

ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก Co-Test Thin Prep & HPV screening + Tumor marker (GH233 + N430)  

รอผล 7 วัน / ราคา 4,500 บาท

  • การตรวจภายใน ( PV)
  • การตรวจมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธี (Liquid Prep  base Cytology)
  • การตรวจหาเชื้อ  Human Papilloma Virus: HPV
  • เจาะเลือดเพื่อดูระดับสารโปรตีนมะเร็งรังไข่ + มดลูก ( CA12-5)

ตรวจภายใน ตรวจได้ที่ไหนได้บ้าง ?

สำหรับสตรีท่านไหนที่ต้องการตรวจภายใน ที่จังหวัดเชียงใหม่ เราขอแนะนำ Hugsa Clinic กลางเวียง ที่ให้บริการตรวจภายใน ด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำปรึกษา เกี่ยวกับความผิดปกติอวัยวะในอุ้งเชิงกรานของสตรี ทั้งภายนอกและภายใน รวมถึงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ เพื่อให้ชาวเชียงใหม่ได้เข้าถึงตรวจภายในที่มีประสิทธิภาพและทุกข้อมูลส่วนตัวของท่านจะเป็นความลับอย่างแน่นอน

อ่านบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ติดต่อเรา