หากพูดถึงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่มีในปัจจุบัน หนึ่งในโรคที่หลายคนคุ้นหูและมีการรณรงค์อย่างมากทั้งในประเทศไทยและจังหวัดเชียงใหม่เอง คงจะหนีไม่พ้นการติดเชื้อเอชไอวี (HIV) ที่เป็นสาเหตุของการติดเชื้อลุกลามรุนแรงในร่างกายของผู้ป่วย จนนำไปสู่โรคเอดส์และภาวะเสี่ยงต่อการเสียชีวิตที่สูงขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นการป้องกันการแพร่เชื้อจากผู้ป่วยไปสู่บุคคลอื่น ด้วยยาที่มีชื่อว่า ยาเพร็พ PrEP และ ยาเป๊ป PEP นับว่าเป็นทางที่ดีที่สุดที่จะทำได้ เนื่องจากเป็นยาที่พัฒนายาเพื่อใช้สำหรับการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีที่มีประสิทธิภาพ และได้รับการรับรองจากหน่วยงานระดับสากล ซึ่งบทความนี้เราจะกล่าวถึงคุณสมบัติของยาเพร็พ PrEP รวมไปถึงขั้นตอนการรับยาที่ถูกต้องเพื่อช่วยให้ชาวเชียงใหม่ที่ต้องการรับยาเพร็พ PrEP ได้เข้าถึงยาได้ง่ายมากขึ้น
Table of Contents
ยาเพร็พ (PrEP) คืออะไร ช่วยป้องกันเชื้อเอชไอวีได้จริงหรือ?
ยาเพร็พ Pre-exposure prophylaxis (PrEP) คือ ยาที่แพทย์ใช้สำหรับต้านไวรัสในผู้ที่ยังไม่มีเชื้อเอชไอวีในร่างกาย แต่มีความเสี่ยงสูงต่อการสัมผัสเชื้อเอชไอวี ทั้งจากพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศต่าง ๆ และในกรณีฉุกเฉินที่แพทย์ประเมินแล้วว่าสมควรได้รับยาต้านไวรัสชนิดนี้ ยาเพร็พ PrEP มีทั้งรูปแบบยารับประทาน และเจลฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ผสมยาต้านไวรัสสำหรับในช่องคลอดและทวารหนัก รวมถึงยาต้านแบบห่วงสำหรับใส่ในช่องคลอด
ประสิทธิภาพของยาเพร็พ (PrEP)
ยาเพร็พ PrEP เป็นยาที่ได้พัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้ในการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี HIV ซึ่งจากการสำรวจพบว่าสามารถป้องกันการติดเชื้อได้มากถึง 90 เปอร์เซ็นต์ โดยต้องรับประทานยาเพร็พ PrEP อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมออย่างน้อย 7 วัน ก่อนที่จะมีความเสี่ยงต่อการสัมผัสเชื้อเอชไอวี จะทำให้ยา PrEP มีประสิทธิภาพสูงกว่า แต่ในปัจจุบันยังไม่มีการยืนยันว่าการใช้ยาเพร็พ PrEP จะสามารถป้องกันการติดเชื้อได้ถึง 100 เปอร์เซ็นต์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจึงต้องแนะนำให้ใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วย เพื่อป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้

ผลข้างเคียงของยาเพร็พ (PrEP)
ส่วนใหญ่ผู้ที่ได้รับยาเพร็พ จะไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย แต่อาจจะมีอาการที่ส่งผลให้เห็นได้ชัด คือ คลื่นไส้อาเจียน ปวดท้อง ท้องเสีย เวียนศีรษะ ปวดหัว เบื่ออาหาร เหนื่อยง่าย โดยปกติแล้วอาการที่แสดงออกมาเหล่านี้สามารถหายได้เองใน 3 – 4 สัปดาห์แรก หากอาการเหล่านี้ยังคงอยู่และเหมือนว่าจะรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ผู้รับยาต้องแจ้งอาการอย่างละเอียดให้แพทย์ที่ดูแลทราบทันที โดยเฉพาะผู้รับยาเพร็พที่มีประวัติเป็นโรคตับอักเสบ หรือโรคประจำตัวอื่น ๆ ต้องแจ้งแพทย์ผู้ดูแลก่อนได้รับยาเพร็พ PrEP เพื่อประสิทธิภาพในการป้องกันที่ดีที่สุด
ส่วนผลข้างเคียงในระยะยาวพบได้น้อย บางรายอาจจะมีอาการ หิวน้ำบ่อย ปัสสาวะบ่อย น้ำตาลในเลือดสูง มีไขมันพอกที่ต้นคอ ลำตัวอ้วน แก้มตอบ แขนขาลีบ เนื่องจากการกระจายตัวของไขมันที่ผิดปกติ และอาจส่งผลต่อกระดูกและไตได้ ผู้รับยาเพร็พ PrEP จึงต้องติดตามผลในระยะยาว โดยการเข้ารับการตรวจเลือดทุก ๆ 3 เดือน เพื่อตรวจว่าติดเชื้อเอชไอวีหรือไม่ ตรวจระบบการทำงานของไตทุก ๆ 6 เดือน รวมไปถึงตรวจคัดกรองโรคอื่น ๆ ที่มาจากเพศสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมอ
ใครบ้างที่ควรจะรับยาเพร็พ (PrEP) เพื่อป้องกัน HIV
ด้วยสรรพคุณของยาเพร็พ PrEP ที่ได้กล่าวมาข้างต้น จึงเป็นยาที่ใช้ได้กับผู้ที่ร่างกายยังไม่มีเชื้อเอชไอวี แต่มีการดำเนินชีวิตที่เสี่ยงต่อการสัมผัสเชื้อสูง ถึงจะสามารถรับยา PrEP ได้ โดยจะต้องใช้ยาเพร็พภายใต้คำแนะนำและการดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งผู้ที่ควรรับยาเพร็พ PrEP คือ
- ผู้ที่มีไลฟ์สไตล์เปลี่ยนคู่นอนบ่อย
- ผู้ที่เพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก
- ผู้ที่ใช้สารเสพติดประเภทฉีด
- ผู้ที่ทำงานสถานบันเทิง
- ผู้ที่มีคู่นอนติดเชื้อเอชไอวี
- ผู้หญิงที่วางแผนจะมีบุตร
- คู่สามีภรรยาที่มีผลเลือดต่าง จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรับยา PrEP เพื่อป้องกันการติดเชื้อ เอชไอวี
- ผู้ที่ทำงานบริการทางเพศ
- ผู้ที่อยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการโดนหลอกให้ใช้ยาเสพติด
- ผู้ที่มาขอรับบริการ Post-Exposure Prophylaxis (PEP) อยู่เป็นประจำโดยไม่สามารถลดพฤติกรรมเสี่ยงลงได้
- ผู้ที่อยู่ในภาวะเสี่ยงทำให้สูญเสียความสามารถในการควบคุมตัวเอง
หากทานยาเพร็พ (PrEP) แล้วไม่ใช้ถุงยางอนามัยได้ไหม
แน่นอนว่าหลายคนอาจสงสัยในข้อนี้และไม่ได้ศึกษาให้ดี จึงนำไปสู่การติดเชื้ออื่นร่วมด้วย จริงอยู่ที่ยาเพร็พ PrEP สามารถลดโอกาสการติดเชื้อเอชไอวีได้ แต่ไม่ 100% และแน่นอนว่ายาเพร็พเป็นยาต้านเอชไอวี แต่ไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อที่มาจากการมีเพศสัมพันธ์อื่น ๆ ได้ เช่นโรคซิฟิลิส หนองใน เป็นต้น ดังนั้นวิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือการใช้ถุงยางอนามัยควบคู่ไปกับการรับประทานยา
ลืมทานยาเพร็พ (PrEP) ทำอย่างไร
ยาเพร็พ PrEP เป็นยาที่กินเพื่อป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี ต้องกินเป็นประจำทุกวัน วันละ 1 เม็ด เวลาเดิมหากลืมทานยา ให้ทานเม็ดที่ลืมทันทีที่นึกได้ แต่ถ้าใกล้ถึงเวลาที่ต้องทานเม็ดต่อไปแล้ว ให้คุณข้ามเม็ดที่ลืมไปเลย แล้วทานยาเพร็พตามเวลาเดิม
ข้อควรรู้
- เก็บยาให้ดี ปิดซองให้สนิท
- ไม่ควรทานยา 2 เม็ดใน 1 วัน
- ทานอาหารได้ปกติ ไม่มีอาหารที่ยกเว้น
- กินยาให้ตรงเวลาเป็นประจำเพื่อให้ยามีประสิทธิภาพและไม่ดื้อยา
- แจ้งแพทย์ทุกครั้งเรื่องโรคประจำตัว และ ยาที่ทานอยู่นอกเหนือจากยาเพร็พ
อ่านบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

รับยาเพร็พ (PrEP) เชียงใหม่ ที่ไหนดี
สำหรับผู้ที่มีความต้องการรับยาเพร็พ PrEP ในจังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อเอชไอวี (HIV) เราขอแนะนำ ฮักษาเมดิคอล คลินิก ซึ่งเป็นคลินิกที่ให้บริการยาเพร็พ PrEP ในจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้คุณสามารถเข้ารับยาต้านไวรัสก่อนมีความเสี่ยงสัมผัสเชื้อ ช่วยลดโอกาสในการรับเชื้อเอชไอวีในราคาที่เหมาะสม พร้อมคำแนะนำและบริการที่เข้าถึงง่าย มีความเป็นส่วนตัว ให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้รับยาเพร็พ PrEP จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรง
ติดต่อเรา
สอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับยาเพร็พ (PrEP) Hugsa Clinic เชียงใหม่
หรือยารักษาไวรัสตับอักเสบซี กับเราที่นี่
Line id @hugsaclinic (มี @ ด้วยนะครับ)
เบอร์โทรติดต่อ 093-309-9988
เปิดบริการทุกวัน 10:00-18:00 น.
แผนที่คลินิก https://g.page/hugsa-medical?share
ข้อมูลเพิ่มเติมเว็บไซต์ https://cmmedicalclinic.com
จองคิวตรวจออนไลน์ https://hugsa.youcanbook.me