หนองในเทียม เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย สามารถพบได้ทุกเพศทุกวัย ในระยะแรก หนองในเทียมอาจไม่แสดงอาการใด ๆ แต่หากรู้สึกเจ็บปวดบริเวณอวัยวะเพศ ควรเข้ารับการตรวจรักษาอย่างทันท่วงที ไม่ควรปล่อยทิ้งเอาไว้เด็ดขาด เพราะหนองในเทียมจะสร้างความทรมานในการขับถ่ายปัสสาวะ รวมถึงการใช้ชีวิตประจำวันได้  ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องอาย รักษาไว้ดีกว่าปล่อยให้เชื้อลุกลามในภายหลัง เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน

หนองในเทียมคืออะไร?

หนองในเทียม (Non Gonococcal Urethritis) เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบบ่อย มีสาเหตุจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อเรียกว่า คลามัยเดีย ทราโคมาทิส (Chlamydia trachomatis) โรคหนองในเทียมมักจะไม่ปรากฏอาการให้เห็นอย่างชัดเจน แต่มักจะก่อให้เกิดการทำลายระบบอวัยวะสืบพันธุ์ของผู้หญิงอย่างมาก จนอาจทำให้เกิดภาวะมีบุตรยาก ในผู้ชายอาการที่อาจพบได้ คือมีน้ำลักษณะคล้ายหนองไหลออกจากอวัยวะเพศ

หนองในเทียมติดต่อกันได้อย่างไร ?

หนองในเทียมติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน ไม่ว่าจะเป็นทางช่องคลอด ทวารหนัก หรือทางปาก หนองในเทียมอาจติดต่อจากแม่สู่ลูกขณะมีการคลอดทางช่องคลอด ดังนั้นผู้ที่มีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกันจึงเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อหนองในเทียม ยิ่งเปลี่ยนคู่นอนบ่อย โอกาสการติดเชื้อก็จะเพิ่มขึ้นมาก หนองในเทียมไม่ติดต่อผ่านการจูบ การกอด การใช้ช้อนส้อม การใช้สระว่ายน้ำ การใช้ห้องน้ำหรือห้องอาบน้ำร่วมกัน

อาการของหนองในเทียม

อาการของหนองในเทียม ในช่วงแรกอาจจะยังไม่แสดงอาการให้พบเห็น หลังได้รับเชื้อแล้วในระยะเวลา 1-3 สัปดาห์ จะแสดงอาการแตกต่างกันออกไปตามเพศ โดยมีลักษณะดังนี้

อาการหนองในเทียมในผู้ชาย

    • รู้สึกปวดหรือมีการบวมที่ลูกอัณฑะ
    • รู้สึกเจ็บหรือแสบที่อวัยวะเพศขณะปัสสาวะ
    • มีอาการอักเสบที่บริเวณหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ
    • มีมูกใสหรือขุ่นไหลออกจากปลายอวัยวะเพศ ซึ่งไม่ใช่ปัสสาวะหรือน้ำอสุจิ

อาการหนองในเทียมในผู้หญิง

    • มีตกขาวลักษณะผิดปกติและมีกลิ่นเหม็น
    • รู้สึกเจ็บหรือแสบที่อวัยวะเพศขณะปัสสาวะ
    • รู้สึกคันหรือแสบร้อนบริเวณรอบอวัยวะเพศ
    • รู้สึกเจ็บท้องน้อยเวลามีประจำเดือนหรือขณะมีเพศสัมพันธ์

หนองในแท้และหนองในเทียม ต่างกันอย่างไร ?

หนองในแท้และหนองในเทียม ถึงแม้ว่าจะมีชื่อคล้ายคลึงกัน แต่มีสาเหตุการได้รับเชื้อและอาการ ที่ต่างกัน ดังนี้

โรคหนองในแท้

สาเหตุจากเชื้อแบคทีเรีย Neisseria gonorrhea มีระยะการฟักตัวของโรคประมาณ 1-10 วัน

  • อาการในผู้ชาย มีอาการปัสสาวะแสบขัด รวมทั้งมีหนองสีขาวขุ่นข้นไหลออกมาจากท่อปัสสาวะ ซึ่งในช่วงแรกๆหนองอาจจะไม่ขุ่นเยอะแค่ไหน แต่ว่าถ้าหากไม่ได้รับการรักษาตะทำให้หนองขุ่นขึ้น
  • อาการในผู้หญิง มีอาการปัสสาวะแสบขัด มีตกขาวปริมาณมากรวมทั้งมีกลิ่นเหม็นแรง มีการอักเสบที่ปากมดลูกและก็ท่อปัสสาวะหากไม่ได้รับการรักษาจะก่อให้โรคลุกลามจนกระทั่งส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้

หนองในเทียม

สาเหตุจากเชื้อแบคทีเรีย Chlamydia trachomatis มีระยะการฟักตัวของโรคมากกว่า 10 วันขึ้นไป

  • อาการในผู้ชาย ระยะเริ่มต้นอาจจะแค่เพียงรู้สึกคันที่ท่อปัสสาวะ หรือมีน้ำใสๆต่อมาจะเริ่มข้นขึ้นแล้วไหลออกมาทางท่อปัสสาวะ โดยหนองของโรคนี้จะไม่ข้นเท่าหนองในแท้
  • อาการในผู้หญิง บางทีอาจจะไม่มีอาการแสดงออกมาให้เห็นอย่างเห็นได้ชัด แต่มีแค่เพียงอาการคันและก็มีตกขาว อาจมีลักษณะของการปวดแสบร้อนขณะปัสสาวะร่วมด้วย

การป้องกันหนองในเทียม

  • มีคู่นอนเพียงคนเดียว ไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย
  • ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ สามารถช่วยป้องกันหนองในเทียมและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ ได้
  • พบแพทย์เป็นประจำเพื่อตรวจร่างกาย ตรวจเลือด หรือตรวจหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

การรักษาหนองในเทียม

หนองในเทียม สามารถรักษาได้ด้วยการใช้ยาปฏิชีวนะ ผู้ป่วยอาจต้องใช้ยาเป็นเวลานานถึง 10 วัน หรือในบางกรณีอาจต้องใช้เวลานานกว่า 2 สัปดาห์ กว่าจะรักษาหนองในเทียมให้หายขาด ในระหว่างที่รับการรักษาหนองในเทียมไม่ควรมีเพศสัมพันธ์ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด และควรใช้ยาปฏิชีวนะให้ครบชุดเพื่อป้องกันการดื้อยาและการกลับมาติดเชื้อซ้ำ

กลุ่มยาปฏิชีวนะที่ใช้ในการรักษาหนองในเทียม ได้แก่

  • กลุ่มยาเพนิซิลลิน (Penicillins)
  • กลุ่มยาแมคโครไลด์ (Macrolides)
  • กลุ่มยาเตตราไซคลิน (Tetracyclines)

ตรวจและรักษาหนองในเทียม เชียงใหม่ ได้ที่ไหน ?

สำหรับชาวเชียงใหม่ที่ต้องการตรวจคัดกรองหรือรักษา หนองในเทียม สามารถเข้ารับบริการได้ที่ ฮักษาคลินิค กลางเวียง เชียงใหม่ ให้บริการโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ที่ได้รับวุฒิบัตรรับรองจากสถาบันทางการแพทย์ในประเทศและต่างประเทศ วินิจฉัยรวดเร็วและเป็นกันเอง เพื่อให้ท่านได้รับการบริการอย่างมีประสิทธิภาพ

อ่านบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ติดต่อเรา