ไมเกรน Migraine

ไมเกรน (Migraine) เป็นอาการปวดศีรษะเรื้อรังชนิดหนึ่ง เกิดจากความผิดปกติชั่วคราวของระดับสารเคมีในสมอง ทำให้ก้านสมองถูกกระตุ้น หลอดเลือดในเยื่อหุ้มสมองมีการบีบและคลายตัวมากกว่าปกติ ลักษณะอาการที่สังเกตได้ คือ ปวดศีรษะแบบตุบๆ มักจะเกิดข้างเดียว หรือทั้งสองข้างก็ได้ โดยโรคไมเกรนส่วนใหญ่มักพบใน ผู้ที่มีความเครียดทางอารมณ์และจิตใจสูง ซึ่งนอกจากจะเป็นการรบกวนชีวิตประจำวันแล้วยังส่งผลต่อปัญหาสุขภาพในระยะยาวอีกด้วย

ชนิดของไมเกรนที่พบบ่อย

  • Classic migrain : คือ มีการมองเห็นที่ผิดปกติ เช่น ตามองไม่เห็นชั่วคราว หรือเห็นแสงระยิบระยับ ภาพบิดเบี้ยว ภาพเบลอ ก่อนปวดหัว
  • Common migrain : คือ ไม่มีอาการเตือนนำมาก่อน มีเฉพาะอาการปวดหัวเท่านั้น

การวินิจฉัยไมเกรน

การวินิจฉัยไมเกรนนั้น จำเป็นต้องอาศัยประวัติและการตรวจร่างกายเป็นสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นลักษณะอาการปวด ตำแหน่ง ความรุนแรง ความถี่ ระยะเวลาในการปวด และอาการอื่นที่ร่วมด้วย ประวัติโรคประจำตัวและประวัติการใช้ยา การตรวจทางห้องปฏิบัติการ หรือการตรวจเอกซเรย์เพื่อวินิจฉัยแยกจากโรคอื่น

ไมเกรน อาการเป็นอย่างไร

ไมเกรนอาการเป็นอย่างไร ?

  • ปวดศีรษะครึ่งซีก อาจป็นบริเวณขมับหรือท้ายทอย แต่บางครั้งก็อาจเป็นสองข้างพร้อมกัน
  • มีอาการแพ้แสงแพ้เสียง เช่น เห็นแสงเป็นเส้นๆ ระยิบระยับ แสงจ้าสะท้อน หรือเห็นภาพบิดเบี้ยว
  • ลักษณะการปวดศีรษะส่วนมากจะปวดตุ๊บๆ นานๆครั้งหรึอเกิน20นาที แต่บางครั้งถ้าเป็นรุนแรง อาจปวดนานเป็นวันๆหรือสัปดาห์ก็ได้
  • อาการปวดศีรษะมักรุนแรง และส่วนมากจะมีการคลื่นไส้ หรืออาเจียนร่วมด้วยเสมอ โดยอาจเป็นขณะปวดศีรษะ ก่อนหรือหลังปวดศีรษะก็ได้

ปัจจัยที่เสี่ยงต่อไมเกรน

  • ภาวะเครียด
  • พักผ่อนไม่เพียงพอ
  • การขาดการพักผ่อน หรือทำงานมากเกินไป
  • ขณะช่วงที่มีประจำเดือน หรือรับประทานยาคุมกำเนิด
  • เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เช่น เหล้า เบียร์ ไวน์
  • อาหารบางชนิดเช่น กล้วยหอม เนยแข็ง และช็อกโกแลต

แนวทางการป้องกันไมเกรน

แนวทางการป้องกันอาการปวดหัวไมเกรนที่เหมาะสมคือ การปรับจากพฤติกรรม เช่น หลีกเลี่ยงสิ่งเร้าที่กระตุ้นการเกิดไมเกรน ไม่เครียด พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ นอกจากนี้ การใช้ยาเพื่อป้องกันและรักษา นับได้ว่ามีประสิทธิภาพที่ดี แต่ยาบางชนิดก็อาจมีผลข้างเคียงที่ต้องระมัดระวังในการใช้ และไม่ควรเลือกใช้เองโดยไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์

การรักษา ไมเกรน

การรักษาไมเกรน

ปัจจุบันการปวดศีรษะไมเกรนยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ การรักษาจึงเน้นไปที่การบรรเทาอาการและป้องกันการปวดศีรษะไมเกรน โดยการรับประทานยาแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มดังนี้

  1. ยาแก้ปวดไมเกรน คือ ยาที่ใช้เมื่อมีอาการปวด 
  2. ยาป้องกันไมเกรน ใช้เพื่อทำให้ความถี่และความรุนแรงของการปวดลดลง

ยาทั้ง 2 กลุ่มนี้มีมากมาย หลายชนิด การเลือกใช้ยาชนิดใด ควรได้รับคำแนะนำหรือควรปรึกษาแพทย์

ดูแลตัวเองอย่างไรหากเป็นไมเกรน

  1. การหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้น ซึ่งจะให้ดีที่สุดเราควรจะรู้จักตัวเอง ว่าอะไรคือปัจจัยกระตุ้นที่ส่งผลกับอาการปวดของเราได้มากที่สุด เช่น การนอนไม่เพียงพอ มีความเครียด การอยู่ในที่อากาศร้อนหรือเย็นเกินไป การมองแสงจ้า เป็นต้น สำหรับคุณผู้หญิง อาจมีปัจจัยกระตุ้นมาจากฮอร์โมนเฮสโตรเจน และการมีประจำเดือน
  2. การออกกำลังกาย เป็นข้อแนะนำยอดนิยมที่ช่วยป้องกันได้หลายโรค เนื่องจากช่วยในการปรับระดับสารเคมีในร่างกาย ทำให้ร่างกายทำงานได้เป็นปกติ และยังทำให้เกิดการหลั่งสารแห่งความสุข หรือเอ็นดอร์ฟิน (Endorphins) อีกด้วย แต่การออกกำลังกายก็ไม่ควรหักโหม แนะนำให้เริ่มด้วยการเดินเร็ว หรือการขี่จักรยานใกล้บ้าน หรือกิจกรรมง่าย ๆ ก่อน และควรหมั่นสังเกตตัวเองอยู่เสมอ
  3. ควรหยุดพัก 10 – 20 นาที เมื่อเริ่มรู้สึกปวดหัวไมเกรน โดยพักในห้องที่มืดและมีอากาศเย็น ไม่อับหรือชื้น มีบรรยากาศเงียบสงบ อย่างไรก็ตาม หากอาการปวดหัวไมเกรนยังรุนแรงอย่างต่อเนื่องและไม่ทุเลาลง ควรรีบไปพบแพทย์ทันที

ขอบคุณข้อมูล : sikarin

อ่านบทความอื่นๆเพิ่มเติม

ติดต่อเรา

  • สอบถามเพิ่มเติมกับเราที่นี่ Hugsa Clinic
  • Line id ✅ @hugsaclinic
  • โทร 📞 093 309 9988
  • เปิดทุกวัน 🕰 10:00-18:00 น.
  • แผนที่คลินิก 🚗https://g.page/hugsa-medical?share
  • จองคิวตรวจออนไลน์ https://hugsa.youcanbook.me

ไมเกรน สามารถบรรเทาได้ด้วยการรับประทานยาและพักผ่อนให้เพียงพอ โดยการดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองให้แข็งแรงอยู่เสมอ ไม่เคร่งเครียดมากจนเกินไป ถือเป็นวิธีที่ช่วยในการป้องกันจากอาการไมเกรน