โรคไต เป็นภาวะสุขภาพที่ร้ายแรงซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้คนนับล้านทั่วโลก ไตมีบทบาทสำคัญในการกรองของเสียและของเหลวส่วนเกินออกจากเลือด ควบคุมความดันโลหิต และควบคุมความสมดุลของเกลือแร่ และควบคุมปริมาณน้ำในร่างกาย เมื่อไตได้รับความเสียหายหรือทำงานผิดปกติ อาจทำให้เกิดโรคไตได้ ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อสุขภาพโดยรวม ในบทความนี้ เราจะสำรวจแง่มุมต่างๆ ของโรคไต รวมถึงสาเหตุ อาการ การรักษาที่มีอยู่ และกลยุทธ์ในการป้องกัน
Table of Contents
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงโรคไต
โรคไต อาจมีสาเหตุได้หลายอย่าง รวมถึงความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไตติดเชื้อ ภูมิต้านทานผิดปกติ สภาวะทางพันธุกรรม และยาบางชนิด นอกจากนี้ ปัจจัยการดำเนินชีวิตบางอย่าง เช่น การสูบบุหรี่ โรคอ้วน และการรับประทานอาหารที่ไม่ดี สามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคไตได้
ประเภทของโรคไต
โรคไตจะแบ่งหลัก ๆ ออกเป็น 2 ปรเภท คือ
ไตวายเฉียบพลัน
ไควายเฉียบพลัน ส่วนใหญ่จะอยู่ในระยะเวลา 3 เดือน เช่น เสียเลือดมาก ได้รับสารพิษ หรือได้รับยาบางชนิด หากเป็นไตวายแบบเฉียบพลัน ยังมีโอกาสที่ไตจะสามารถฟื้นกลับมาเป็นปกติได้
ไตวายเรื้อรัง
ไตวายเรื้อรัง เกิดจากโรคไตวายเฉียบพลันแต่ไม่สามารถฟื้นกลับมาเป็นปกติได้ใน 3 เดือน หรืออาจจะมีสาเหตุมาจาก โรคเบาหวาน ความดัน ก็จะทำให้เข้าสู่ภาวะไตวายเรื้อรัง แบ่งออกเป็น 5 ระยะ
- ระยะที่ 1 เป็นระยะที่ไตเริ่มเสื่อม (มีโปรตีนในปัสสาวะ) ค่าการทำงานของไต GFR ปกติ ซึ่งจะอยู่ที่ประมาณ 90 หรือมากกว่า
- ระยะที่ 2 ไตเสื่อม ค่าการทำงานของไต GFR ลดลงเล็กน้อย ซึ่งจะอยู่ที่ประมาณ 60 – 89
- ระยะที่ 3 ค่าการทำงานของไต GFR ลดลงปานกลางซึ่งจะอยู่ที่ประมาณ 30 – 59
- ระยะที่ 4 ค่าการทำงานของไต GFR ลดลงมาก ซึ่งจะอยู่ที่ประมาณ 15 – 29
- ระยะที่ 5 เข้าสู่ภาวะไตวาย ค่าการทำงานของไต GFR น้อยกว่า 15
โรคไต อาการเป็นอย่างไร ?
โรคไตในช่วงแรกส่วนมากจะไม่ค่อยแสดงอาการ โดยอาการมักจะปรากฏในช่วงระยะท้ายๆ เนื่องจากไตได้รับความเสียหายไปมากแล้ว ทั้งนี้ผู้ป่วยโรคไตมักจะมีอาการต่างๆ เหล่านี้
- ปัสสาวะเป็นเลือด ปัสสาวะมีเลือดปน อาจเกิดการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
- ปัสสาวะเป็นฟอง ซึ่งมักเป็นอาการของภาวะไตเรื้อรัง
- ปัสสาวะตอนกลางคืนบ่อยกว่าปกติ
- หน้าบวม เท้าบวม
- อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย
- เบื่ออาหาร คลื่นไส้
- ผิวหนังซีด คัน มีจ้ำเลือดขึ้นง่า
ใครบ้างที่เสี่ยงต่อโรคไต
- ผู้ที่อายุมากกว่า 60 ปี
- ผู้ที่มีความดันโลหิตสูง
- ผู้ที่คนในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคไต
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน ความดัน
การรักษาโรคไต
- รักษาตามอาการ เช่น การรับประทานยา และควบคุมความดันโลหิตให้เหมาะสม ลดพฤติกรรมเสี่ยง เช่น การสูบบุหรี่ และหลีกเลี่ยงยาบางประเภท
- รักษาด้วยวิธีการบำบัดทดแทนไตใช้รักษาผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังเพื่อช่วยขจัดของเสียทดแทนไตที่เสียไป สามารถทำได้ 3 วิธี ดังนี้
- การฟอกเลือด เพื่อทำให้เลือดสะอาดโดยใช้ระยะเวลา 4-5 ชั่วโมง 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์
- การฟอกไตผ่านทางช่องท้อง อาศัยช่องท้องในการฟอกเลือด โดยจะฟอกวันละ 4 รอบ
- การปลูกถ่ายไต โดยการนำไตจากผู้บริจาคใส่เชิงกรานของผู้รับไต
การป้องกันโรคไต
- ดูแลสุขภาพตัวเอง พักผ่อนให้เพียงพอ
- รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
- หลีกเลี่ยงอาหารรส เค็มจัด หวานจัด
- ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- หลีกเลี่ยงการทานยาติดต่อกันเป็นเวลานานๆ
- ตรวจสุขภาพเป็นประจำ อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
ผู้ป่วยโรคไต ควรหลีกเลี่ยงอาหาร ดังต่อไปนี้
- อาหารหมักดอง เช่น ปลาร้า ผักกาดดอง
- อาหารที่มีส่วนผสมของเนยและครีม เช่น เค้ก คุกกี้ ขนมปัง
- อาหารที่มีโซเดียมและอาหารที่มีรสเค็ม เช่นผงชูรส ผงปรุงรส และซอสต่าง ๆ
- อาหารแปรรูป เช่น ไส้กรอก หมูยอ เบคอน อาหารกึ่งสำเร็จ ผลไม้กระป๋อง ปลากระป๋อง
- อาหารที่มีโคเลสเตอรอลสูง จากไขมันอิ่มตัวของพืชและสัตว์ เช่น กะทิ ไข่แดง หมูสามชั้น
ช่องทางการติดต่อ
- ฮักษาคลินิก กลางเวียง เชียงใหม่ ตั้งอยู่ที่ 77/7 ถนน คชสาร ตำบลช้างคลาน อำเภอเมืองเชียงใหม่ เชียงใหม่
- เปิดบริการทุกวัน
- จันทร์ – ศุกร์ 10.00 – 20.00 น.
- เสาร์ – อาทิตย์ 10.00 – 18.00 น.
- สอบถามผ่าน Line id. @hugsaclinic (มี @ ด้วยนะครับ)
- เบอร์โทรติดต่อ
093 309 9988
- แผนที่คลินิก
https://g.page/
hugsa-medical?share - จองคิวตรวจออนไลน์ https://hugsa.youcanbook.me
อ่านบทความอื่นๆเพิ่มเติม
ขอบคุณข้อมูล : sikarin, vichaivej, petcharavejhospital
หากคุณหรือคนรอบข้าง มีอาการดังที่กล่าวมานี้ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยโดยเร็ว เพื่อรับการรักษาอย่างทันท่วงที และป้องกันไม่ให้เกิดการลุกลามเข้าสู่ภาวะไตวายเรื้อรัง เพื่อสุขภาพของตัวคุณเอง และคนที่คุณรัก