โรคความดันโลหิตสูง (Hypertension) ส่วนใหญ่มักจะไม่แสดงอาการ แต่อาจมีอาการ ปวดมึนท้ายทอย ตึงที่ต้นคอ เวียนศีรษะ บางรายอาจมีอาการปวดศีรษะตุบๆ เหมือนไมเกรน ในผู้ป่วยที่เป็นมานาน อาจมีอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ใจสั่น นอนไม่หลับ “หากปล่อยไว้นาน ไม่รักษา อาจส่งผลเสียต่อร่างกาย

ความดันโลหิต คืออะไร ?

ความดันโลหิต หมายถึง แรงดันของกระแสเลือดที่กระทบต่อผนังหลอดเลือดแดง ซึ่งเกิดจากการสูบฉีดของหัวใจ (คล้ายแรงลมที่ดันผนังของยางรถ เมื่อเราสูบลมเข้า) สามารถวัดได้โดยการใช้เครื่องวัดความดัน (Sphygmomanometer) วัดที่แขน และมีค่าที่วัดได้ 2 ค่า

  1. ความดันช่วงบน หรือ ความดันซิสโตลี (Systolic blood pressure) หมายถึง แรงดันเลือดในขณะที่หัวใจบีบตัว ซึ่งอาจจะสูงตามอายุ และความดันช่วงบนของคนคนเดียวกัน อาจมีค่าที่ต่างกันออกไป ตามท่าเคลื่อนไหวของร่างกาย การเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ และปริมาณของการออกกำลังกาย
  2. ความดันช่วงล่าง หรือ ความดันไดแอสโตลี (Diastolic blood pressure) หมายถึง แรงดันเลือดในขณะที่หัวใจคลายตัว ในปัจจุบันได้มีการกำหนดค่าความดันโลหิตปกติ และระดับความรุนแรงของโรคความดันโลหิตสูง ดังนี้
ประเภท ความดันช่วงบน (มม.ปรอท)/ความดันช่วงล่าง (มม.ปรอท)
ความดันโลหิตปกติ < 120 และ < 80
ความดันโลหิตปกติที่ค่อนข้างสูง 120-129 และ < 80
ความดันโลหิตสูงระดับที่ 1 130-139 และ/หรือ 80-89
ความดันโหลิตสูงระดับที่ 2 ≥ 140 และ/หรือ ≥ 90
ความดันช่วงบนสูงเดี่ยว ≥ 140 และ < 90

เมื่อไรจึงจะเรียกว่าความดันโลหิตสูง

คนปกติจะมีความดันโลหิต 120/80 มิลลิเมตรปรอท หากความดันโลหิตตัวบนมากกว่า 140 มิลลิเมตรปรอท หรือ ความโลหิตตัวล่างเกิน 90 มิลลิเมตรปรอท จะเรียกว่า ความดันโลหิตสูง สำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตระหว่าง121/81-139/89 มิลลิเมตรปรอท ยังไม่เป็นโรคความดันโลหิตสูงแต่มีโอกาศที่จะเป็นโรคความดันโลหิตสูงในอนาคต

อาการโรคความดันโลหิตสูง

  • เลือดไปเลี้ยงไตไม่พอ ไตวายเรื้อรัง
  • หลอดเลือดหัวใจหนา หัวใจขาดเลือด หัวใจวาย
  • หลอดเลือดตีบ โป่งพอง เลือดไปเลี้ยงอวัยวะได้น้อยลง
  • มีผลต่อเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงจอประสาทตา ทำให้จอประสาทตาเสื่อม
  • เป็นสาเหตุของอัมพฤกษ์ อัมพาต

สาเหตุโรคความดันโลหิตสูง

  1. ผู้ป่วยที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงส่วนใหญ่ประมาณ 90-95% แพทย์จะตรวจไม่พบโรค หรือภาวะผิดปกติ หรือสิ่งที่เป็นต้นเหตุของความดันโลหิตสูง เรียกว่า “ความดันโลหิตสูงชนิดไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด” (Essential hypertension)
  2. ผู้ป่วยที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงส่วนน้อยประมาณ 5-10% แพทย์อาจตรวจพบโรค หรือภาวะผิดปกติ หรือสิ่งที่เป็นสาเหตุของความดันโลหิตสูง เรียกว่า “ความดันโลหิตสูงชนิดทราบสาเหตุ
    • โรคไต เช่น โรคไตเรื้อรัง กรวยไตอักเสบเรื้อรัง หน่วยไตอักเสบ โรคถุงน้ำไตชนิดหลายถุง ฯลฯ
    • หลอดเลือดแดงไตตีบ (Renal artery stenosis)
    • หลอดเลือดแดงใหญ่ตีบ (Coarctation of aorta)
    • เนื้องอกบางชนิดของต่อมหมวกไต หรือต่อมใต้สมอง

ลดพฤติกรรมเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูง

  1. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ในปริมาณที่เหมาะทุกวัน
  2. รับประทานผักและผลไม้ชนิดไม่หวาน
  3. ลดอาหารพวกไขมันชนิดอิ่มตัว แป้ง น้ำตาล ของหวาน และอาหารเค็ม
  4. ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
  5. ออกกำลังกายเป็นประจำ พักผ่อนให้เพียงพอ
  6. งดดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่
  7. รักษาสุขภาพจิตให้ดี ไม่เครียด
  8. ตรวจสุขภาพเป็นประจำ อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง

ทำไมต้องรักษาความดันโลหิตสูง

เนื่องจากโรคความดันโลหิตสูง มักจะไม่มีอาการ แต่โรคความดันโลหิตสูงสามารถทำให้เกิดโรคแก่ร่างกาย เช่น ทำให้หัวใจต้องทำงานหนักอาจจะทำให้เกิดโรคหัวใจวาย โรคความดันโลหิตสูงเป็นปัจจัยเสี่ยงอันดับหนึ่งของโรคอัมพาต และยังเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจ โรคไต โรคหลอดเลือดแดงแข็ง หากทราบว่าตนเองเสี่ยงเป็น โรคความดันโลหิตสูง ควรเข้ารับการตรวจวินิจฉัย หากปล่อยไว้นาน ไม่รักษา อาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้

สำหรับชาวเชียงใหม่ ที่ต้องการตรวจโรคความดันโลหิตสูง รักษาโรคความดันโลหิตสูง สามารถเข้ารับการตรวจหรือรักษาได้ที่ ฮักษาคลินิค กลางเวียง เชียงใหม่” ให้บริการโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่ได้รับวุฒิบัตรรับรองจากสถาบันทางการแพทย์ในประเทศและต่างประเทศ พร้อมให้บริการตรวจโรคทั่วไปต่าง ๆ อย่างครบวงจร วินิจฉัยรวดเร็วและเป็นกันเอง

ความดันโลหิตสูง โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง แต่เป็นโรคสำคัญที่ควรได้รับการดูแลเป็นอย่างดีเพื่อไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพในอนาคต

ขอบคุณข้อมูล : phuketinternationalhospital ,samitivejhospitals

อ่านบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ติดต่อเรา