ไวรัส RSV (Respiratory Syncytial Virus) เป็นเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่เป็นสาเหตุของการติดเชื้อทางเดินหายใจทั้งส่วนบนและส่วนล่าง สามารถเกิดการติดเชื้อได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ส่วนมากแล้วมักเกิดในเด็กเล็ก ๆ ที่อายุต่ำกว่า 3 ปี สำหรับในประเทศไทยอาจพบการระบาดได้บ่อยในช่วงฤดูฝนหรือช่วงปลายฝนต้นหนาว
Table of Contents
ไวรัส RSV อาการเป็นอย่างไร ?
ไวรัส RSV อาการต่างจากโควิด 19 อย่างไร ?
เมื่อเรารู้อาการของการติดเชื้อเชื้อไวรัส RSV แล้ว จะเห็นได้ว่าอาการคล้ายกับการป่วยเป็นไข้หวัดทั่วไปรวมถึงโรคโควิด 19 แต่การติดเชื้อไวรัส RSV จะมีอาการบางอย่างที่ต่างจากโควิด 19 ซึ่งสามารถแบ่งได้ดังนี้
อาการของโรคโควิด 19
- มีไข้สูง
- ไอ
- มีน้ำมูก
- เจ็บคอ
- หายใจเหนื่อยหอบ
- จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส
แต่หากติดเชื้อ RSV จะมีไข้สูงเช่นกัน แต่อาการไอจะพบว่ามีเสมหะมาก ในบางรายอาจไอมากจนอาเจียน เหนื่อยหอบหายใจแรงจนมีเสียงหวีด และมีอาการตัวเขียว ไม่พบอาการจมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส
ไวรัส RSV ติดต่อได้อย่างไร ?
การติดต่อของเชื้อไวรัส RSV สามารถติดต่อผ่าน สารคัดหลั่งต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น น้ำมูก น้ำลาย ละอองจากการไอ จาม โดยเฉพาะการติดต่อจากการสัมผัส ซึ่งหากเด็กได้รับเชื้อ ระยะฟักตัวของโรคจะอยู่ที่ประมาณ 5 วัน โดยในช่วง 2 – 4 วันแรกมักมีอาการคล้ายไข้หวัดธรรมดา เช่น ไข้ ไอ จาม น้ำมูกไหล เมื่อการดำเนินโรคมีมากขึ้นส่งผลให้ทางเดินหายใจส่วนล่างมีการอักเสบตามมา ทำให้เกิดโรคหลอดลมอักเสบ กล่องเสียงอักเสบ และโรคปอดบวมหรือปอดอักเสบ ในบางรายเกิดอาการรุนแรง เช่น ไข้สูง ไอแรง หอบเหนื่อย หายใจมีเสียงครืดคราด มีเสมหะในลำคอมาก ๆ
ใครบ้างที่เสี่ยงต่อการติด ไวรัส RSV
การติดเชื้อ RSV สามาถเกิดขึ้นได้กับทุกวัยทั้งเด็กและผู้ใหญ่ แต่กลุ่มเสี่ยงสามารถแบ่งได้ดังนี้
- ผู้ใหญ่ที่เป็นโรคหอบหืด
- ทารกที่คลอดก่อนกำหนด
- เด็กเล็ก ๆ ที่อายุต่ำกว่า 3 ปี
- ผู้ที่เข้ารับการปลูกถ่ายอวัยวะ
- ผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 65 ปี
- ทารกที่อยู่ในสถานรับเลี้ยงเด็กที่แออัด
- เด็กเล็กที่เป็นโรคหัวใจหรือโรคปอดตั้งแต่กำเนิด
- เด็กที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น เด็กที่ได้รับเคมีบำบัดหรือได้รับการปลูกถ่ายกระดูก
- ผู้สูงอายุที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือโรคเรื้อรัง เช่น โรคภูมิแพ้ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคปอด โรคหอบหืด
ไวรัส RSV ป้องกันอย่างไร ?
การป้องกันการติดเชื้อไวรัส RSV ทำได้โดย การรักษาความสะอาด ผู้ปกครองควรดูแลความสะอาดให้ดี หมั่นล้างมือตัวเองและลูกน้อยบ่อย ๆ เพราะการล้างมือสามารถลดเชื้อที่ติดมากับมือทุกชนิดได้ถึงร้อยละ 70 ควรรับประทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะครบ 5 หมู่ และให้เด็กพักผ่อนให้เพียงพอ การออกกำลังกายในอากาศที่ถ่ายเท ไม่อยู่ในห้องแอร์ตลอดเวลา เป็นการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรง ปกติแล้วในผู้ใหญ่มักไม่ติดเชื้อโรคนี้ เพราะมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงพอ แต่ผู้ใหญ่มีโอกาสสัมผัสเชื้อนี้ได้ และหากไม่ล้างมือให้สะอาดก็อาจทำให้เด็กเล็กติดเชื้อจากผู้ใหญ่ได้
การรักษาไวรัส RSV
อ่านบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ติดต่อเรา
- สอบถามเพิ่มเติมกับเราที่นี่ Hugsa Clinic
- Line id
@hugsaclinic
- โทร
093 309 9988
- เปิดทุกวัน
10:00-18:00 น.
- แผนที่คลินิก
https://g.page/hugsa-medical?share
- เว็บไซต์
www.hugsaclinic.com
- จองคิวตรวจออนไลน์ https://hugsa.youcanbook.me