ไข้หวัดใหญ่ พบได้ในทุกช่วงอายุ แต่อัตราการเสียชีวิตเกิดกับผู้ป่วยที่มีอายุมากกว่า 65 ปี หรือผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่นโรคหัวใจ โรคปอด โรคไต เป็นต้น การฉีดวัคซีนเป็นวิธีป้องกันที่ได้ผลมากที่สุด สามารถลดอัตราการติดเชื้อ ลดอัตราการนอนโรงพยาบาล ลดโรคแทรกซ้อน
Table of Contents
ไข้หวัดใหญ่คืออะไร ?
ไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส (Influenza virus) ติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ เชื้ออาจแพร่กระจายอยู่ในอากาศ หรือเจือปนอยู่ในของเหลว คนรับเชื้อเข้าสู่ร่างกายผ่านประสาทสัมผัสต่าง ๆ อาการของโรคจะมีตั้งแต่อาการเล็กน้อยไปจนถึงอาการที่รุนแรงและเสียชีวิตได้ โรคนี้สามารถพบได้ตลอดปี ระบาดในช่วงเปลี่ยนผ่านฤดูที่มีสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงฉับพลัน โดยเฉพาะในฤดูหนาวและฤดูฝนที่เอื้อต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโรค
อาการของไข้หวัดใหญ่
ไข้หวัดใหญ่ที่ไม่มีโรคแทรกซ้อน ระยะฟักตัว 1 – 4 วัน
- ไข้สูง 39-40 องศา
- เบื่ออาหาร คลื่นไส้
- ปวดศีรษะอย่างรุนแรง
- มีอาการอ่อนเพลียอย่างเฉียบพลัน
- เจ็บคอ และคอแดง มีน้ำมูกใสๆ ไหล
- ไอแห้งๆ ตามตัวจะร้อนแดง ตาแดง
- อาเจียน หรือท้องเดิน เป็นไข้ 2-4 วัน แล้วค่อยๆ ลดลง
- ปวดตามแขน ขา ปวดข้อ ปวดรอบตา ปวดเมื่อยตามตัว
สำหรับรายที่อาการรุนแรง มักเกิดในผู้ป่วยที่มีโรคเรื้อรังอยู่ก่อน
- พบอาการอักเสบของเยื่อหุ้มหัวใจ ผู้ป่วยจะมีอาการเจ็บหน้าอก เหนื่อย หอบ หรือมีอาการหัวใจวาย
- ระบบประสาท พบเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ผู้ป่วยจะปวดศีรษะมาก และซึมลง
- ระบบหายใจ:มีหลอดลมอักเสบและปอดบวม ผู้ป่วยจะแน่นหน้าอก และเหนื่อย
- โดยทั่วไปไข้หวัดใหญ่มักจะหายในไม่กี่วัน แต่ก็มีผู้ป่วยบางราย มีอาการไอ และปวดตามตัวนานถึง 2 สัปดาห์ ในรายที่เสียชีวิตมักมีอาการปอดบวม และโรคหัวใจ
ไข้หวัดใหญ่แตกต่างจากไข้หวัดธรรมดาอย่างไร ?
การรักษา ไข้หวัดใหญ่
แพทย์จะจ่ายยาเพื่อรักษาตามอาการที่ป่วย หรือหากมีอาการป่วยเพียงเล็กน้อย สามารถใช้ยารักษาได้ด้วยตนเองภายใต้คำแนะนำของเภสัชกร เช่น ยาลดไข้ ยาแก้หวัด เช็ดตัวลดไข้ และควรนอนหลับพักฟื้นให้เพียงพอ เพราะการป่วยไข้หวัดใหญ่จะทำให้ร่างกายอ่อนล้าและต้องการการพักผ่อนมากกว่าปกติ หากมีอาการน่าสงสัยหรือจัดอยู่ในผู้ป่วยสายพันธุ์อันตราย ผู้ป่วยควรเข้ารับการรักษาอย่างใกล้ชิดจากแพทย์ เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง
โรคไข้หวัดใหญ่ป้องกันได้อย่างไรบ้าง?
- ไม่ควรคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีอาการไข้หวัด
- สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อจำเป็นต้องใกล้ชิดกับผู้ป่วย
- ควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่ที่มีผู้คนแออัด และอากาศถ่ายเทไม่ดี
- หมั่นล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือใช้แอลกอฮอล์เจลทำความสะอาดมือ
- ไม่ใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น เช่น แก้วน้ำ หลอดดูดน้ำ ช้อนอาหาร ผ้าเช็ดมือ ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว
- ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ปีละครั้ง
ผลข้างเคียงของวัคซีนไข้หวัดใหญ่
- ปวด บวม แดง บริเวณที่ฉีด เกิดภายใน 24-48 ชั่วโมงหลังฉีด แต่อาการจะหายไปเองภายใน 2-7 วัน
- หลังฉีดบางรายจะมีไข้ต่ำๆ รู้สึกไม่สบายตัว ปวดกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ อาจเริ่มมีอาการภายใน 6-12 ชั่วโมง และอาจเป็นนาน 1-2 วัน โดยไม่ต้องรับการรักษา
ทำไมต้องฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทุกปี ?
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฉีดได้ที่ไหน ?
ในปัจจุบันสามารถป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้โดยการ ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ สามารถเข้ารับบริการได้ที่ ฮักษาคลินิค กลางเวียง เชียงใหม่ โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ท่านได้เข้าถึงการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ที่มีประสิทธิภาพ เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00 น. ถึง 18.00 น. สามารถจองคิวการตรวจล่วงหน้าได้ง่าย ๆ ผ่าน Line ID : @hugsaclinic หรือ โทร.093-309-9988
ขอบคุณข้อมูล : pidst
อ่านบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ติดต่อเรา
- สอบถามเพิ่มเติมกับเราที่นี่ Hugsa Clinic
- Line id @hugsaclinic
- โทร 093 309 9988
- เปิดทุกวัน 10:00-18:00 น.
- แผนที่คลินิก https://g.page/hugsa-medical?share
- เว็บไซต์ www.hugsaclinic.com
- จองคิวตรวจออนไลน์ https://hugsa.youcanbook.me