“มะเร็งปากมดลูก” เกิดจากการติดเชื้อ ไวรัสเอชพีวี (Human Papilloma Virus)  มีมากมายหลายสายพันธุ์ แต่มีสายพันธุ์หลักที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในบริเวณอวัยวะเพศของทั้งหญิงและชาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง HPV 16 และ 18 เป็นสาเหตุหลักของการเกิดมะเร็งปากมดลูก ซึ่งผู้ที่มีความเสี่ยง คือทุกคนที่มีเพศสัมพันธ์แล้ว ทั้งผู้ที่มีคู่นอนหลายคน หรือคนเดียวก็ตาม แต่ผู้ที่มีคู่นอนหลายคนมีโอกาสเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อมากกว่า

อาการของมะเร็งปากมดลูก

  • มีตกขาวมากกว่าปกติ หรือตกขาวมีเลือดปน
  • เลือดออกจากช่องคลอดโดยไม่ทราบสาเหตุ
  • เลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์
  • เลือดออกหลังจากหมดประจำเดือน
  • ปวดท้องน้อย ปวดบริเวณหัวหน่าว
  • ประจำเดือนมาไม่ปกติ
  • เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์
  • ปัสสาวะ/อุจจาระปนเลือด
  • ปวดหลัง ขาบวม ไตวาย (กรณีที่มะเร็งมีระยะลุกลามรุนแรง)
  • น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย

วิธีตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก

  1. ตรวจแปปเสมียร์ (Pap smear) การใช้ไม้พายเก็บเนื้อเยื่อบริเวณปากมดลูก ก่อนนำไปตรวจในห้องปฏิบัติการ เป็นวิธีที่ใช้มาเป็นเวลานาน
  2. ตินเพร็พ ( Pap Test) พัฒนามาจากการตรวจวิธีแปปเสมียร์ มีประสิทธิภาพและแม่นยำมากขึ้น โดยเก็บเซลล์บริเวณปากมดลูกด้วยอุปกรณ์เฉพาะ จากนั้นใส่ลงในขวดน้ำยาตินเพร็พ ก่อนนำส่งเพื่อตรวจผลในห้องปฏิบัติการ
  3. ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกแบบเจาะลึกถึงระดับ DNA ด้วย Thin Prep Plus Cervista HPV DNA Testing เป็นการตรวจหาเซลล์มะเร็งปากมดลูกร่วมกับตรวจดีเอ็นเอของเชื้อ HPV สายพันธุ์ที่ความสัมพันธ์กับการเป็นมะเร็งปากมดลูก ร่วมกับการเจาะลึกว่ามีการติดเชื้อ HPV 16 และ HPV 18 หรือไม่ จะช่วยบอกความเสี่ยงต่อการมีรอยโรคแอบแฝง

มะเร็งปากมดลูก มีแนวทางป้องกันอย่างไร ?

  • ไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย
  • ควรใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์
  • ฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัสเอชพีวี (HPV Vaccine)
  • ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำ อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
  • เมื่อมีอาการผิดปกติ เช่น ตกขาวผิดปกติ เลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ ควรรีบพบแพทย์

วัคซีนมะเร็งปากมดลูก สามารถป้องกันได้จริงหรือไม่ ?

วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก ที่รู้จักกันในปัจจุบัน คือวัคซีนที่ป้องกันการติดเชื้อไวรัส HPV เนื่องจากสาเหตุหลักของการเกิดมะเร็งปากมดลูกคือการติดเชื้อไวรัส HPV ดังนั้นการป้องกันการติดเชื้อไวรัส HPV แต่เริ่มแรก จึงเป็นการป้องกันการเกิดมะเร็งปากมดลูกที่ดีที่สุด

ในปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันการติดเชื้อ HPV อยู่ 3 ชนิด ได้แก่

  1. วัคซีนป้องกัน HPV ชนิด 2 สายพันธุ์ (bivalent) ครอบคลุมสายพันธุ์ 16 และ 18 ที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งปากมดลูก
  2. วัคซีนป้องกัน HPV ชนิด 4 สายพันธุ์ (quadrivalent) ครอบคลุมสายพันธุ์ 16 และ 18 ที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งปากมดลูก และสายพันธุ์ 6 และ 11 ที่ทำให้เกิดโรคหูดหงอนไก่
  3. วัคซีนป้องกัน HPV ชนิด 9 สายพันธุ์ (nonavalent) ครอบคลุมสายพันธุ์ 16, 18, 31, 33, 45, 52 และ 58  ที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งปากมดลูก และสายพันธุ์ 6 และ 11 ที่ทำให้เกิดโรคหูดหงอนไก่

ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก เชียงใหม่ ได้ที่ไหน ?

“การฉีดวัคซีนเอชพีวี (HPV Vaccine) เป็นการป้องกันการติดเชื้อเอชพีวี ชนิดสำคัญซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิด มะเร็งปากมดลูก ดังนั้นผู้หญิงที่ได้รับวัคซีนเอชพีวีสามารถลดโอกาสเสี่ยงในการเกิดมะเร็งปากมดลูกได้ถึง 70%” สำหรับชาวเชียงใหม่ที่ต้องการตรวจคัดกรองหรือ ฉีดวัคซีนป้องกัน มะเร็งปากมดลูก สามารถเข้ารับบริการได้ที่ ฮักษาคลินิค กลางเวียง เชียงใหม่ ให้บริการโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่ได้รับวุฒิบัตรรับรองจากสถาบันทางการแพทย์ในประเทศและต่างประเทศ วินิจฉัยรวดเร็วและเป็นกันเอง

มะเร็งปากมดลูก สามารถป้องกันได้ ด้วยการฉีดวัคซีนป้องกัน และการตรวจคัดกรองอย่างสม่ำเสมอ ช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งปากมดลูกได้ หากพบอาการผิดปกติที่สงสัยว่าเป็นอาการของมะเร็งปากมดลูก ควรรีบพบแพทย์ เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง

ขอบคุณข้อมูล : paolohospital ,praram9

อ่านบทความอื่นๆเพิ่มเติม

ติดต่อเรา

  • สอบถามเพิ่มเติมกับเราที่นี่ Hugsa Clinic
  • Line id ✅ @hugsaclinic
  • โทร 📞 093 309 9988
  • เปิดทุกวัน 🕰 10:00-18:00 น.
  • แผนที่คลินิก 🚗https://g.page/hugsa-medical?share
  • จองคิวตรวจออนไลน์ https://hugsa.youcanbook.me